Website
1166
facebook
twitterx
youtube
Instagram
pantip
TikTok
line
connect








เท้าเปล่าย่ำดิน บำบัดดีทั้งกายใจ

07 ส.ค. 2549

          หากจะกล่าวประโยคยอดฮิตที่ว่า "ตาดูดาวเท้าติดดิน” หลายคนคงนึกถึงภาพที่นายกทักษิณเคยพูดไว้ในอดีต อย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดว่าจะพาไปเรื่องการเมือง แต่วันนี้ "ผู้จัดการออนไลน์” จะพาคุณคืนกายกลับสู่ธรรมชาติ เพื่อเรียกพลังชีวิตที่หล่นหายไประหว่างวันทำงานอันแสนยุ่งเหยิงให้กลับมา
 
          บางช่วงเวลาเราคงลืมไปว่าเมื่อครั้งแรกเริ่มที่เราเกิดมานั้น เรามากันตัวเปล่าไม่มีเสื่อผ้าอาภรณ์ใดๆมาห่อพันกาย แต่เมื่อโลกเราเรียนรู้ชีวิตที่จะต้องมีอารยะธรรม จึงเริ่มหาแพรพรรณมาปิดบังกายไว้ ครอบคลุมไปถึง "เท้า” ที่แต่เดิมใช้เป็นยานพาหนะนำทางไปได้ทุกที เรียกได้ว่าย่ำไหนก็ไปกัน จากนั้นเราก็เริ่มใช้ "รองเท้า”เป็นเครื่องคั่นระหว่างเท้าเรากับพื้นดินที่เราเริ่มมองว่าเศษดินจะนำพามาซึ่ง "เชื้อโรค” ใส่กันเสียจนเพลิน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแฟชั่นที่มีมาหลากหลายหรือเปล่า จนลืมไปพาเท้าไปพักผ่อน บ่อยครั้งที่พวกมันแอบบ่นน้อยใจเว้าวอนให้มองดูเท้าบ้าง 
 
          เคยสังเกตหรือไม่ว่าคนเฒ่าคนแก่ ที่เดินเท้าเปล่ามาเนิ่นนานนั้น เหตุจึงไม่เจ็บไข้ได้ป่วย หรือพยาธิไชเท้าอย่างที่เรากลัว เป็นเพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันมีความพอดี อีกอย่างในสมัยโบราณ ก่อนขึ้นบ้านทุกหน้าบ้านก็จะมีที่ล้างเท้าไว้ จึงช่วยลดล้างสิ่งสกปรกออกไปได้บ้าง การเดินเท้าเปล่าย้ำไปบนดิน ในมุมมองของบางคนอาจดูว่ามันสกปรก แต่ในอีกทางมันคือการ "บำบัด” การเดินเท้าเปล่าบนดิน พื้นหญ้า หรือแม้แต่หาดทราย สามารถช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพดีขึ้น เพราะเป็นปัจจัยที่จะไปกระตุ้นให้ร่างกายเกิดความกระปรี้กระเปร่าและสดชื่น
 
           ข้อมูลอ้างอิงจากมูลนิธิสุขภาพไทย กล่าวไว้ว่าตามหลักการแพทย์แผนโบราณของจีน "เท้า” เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่รับเอาพลังจากมหาปฐพีนี้ แบบเต็มๆมากกว่าอวัยวะอื่น การที่เราจะเปลือยเท้าสัมผัสกับพื้นดินซะบ้าง ย่อมจะทำให้ไฟธาตุในร่างกายเกิดความสมดุล ช่วยเสริมสร้างพลังให้แก่ร่างกายอย่างดียิ่ง
 
            หากสัมผัสเท้าของเราดู จะเห็นว่าที่เท้าจะมีจุดต่าง ๆ มากมายที่มีความสัมพันธ์กับอวัยวะภายในของร่างกาย ฉะนั้นการเดินเท้าเปล่า จะช่วยกระตุ้นจุดต่างๆ เหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะจุดที่เรียกว่า "หย่งเฉวียน” ถ้าหากได้มีการกระตุ้นที่เหมาะสมแล้ว จะส่งผลให้ สมองที่มีส่วนสัมพันธ์กับไต ไขสันหลัง และระบบประสาทจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ช่วยทำให้การขับฮอร์โมนชนิดต่างๆ ในร่างกายเป็นไปอย่างสมบูรณ์ ร่างกายจึงกระปรี้กระเปร่าและสดชื่นขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
 
             แม้ว่าในแต่ละวันเราจะมีเวลาน้อยในการพักผ่อนและมีโอกาสได้สัมผัสกับธรรมชาติน้อยกว่าคนในอดีต ก็สมควรยิ่งนักที่จะหาโอกาสลองทำดูในเวลาเช้าหรือเย็นก็ได้ก่อนไปทำงาน หรือจะเลือกในช่วงเวลาที่ปลูกต้นไม้ รดน้ำต้นไม้ หรือเดินเล่นตามสวนหรือบริเวณที่เป็นพื้นดินพื้นหญ้าวันละเล็กวันละน้อยก็เป็นการดี เพราะความรู้สึกปลดปล่อยจากความวิตกกังวลในเวลาสั้นๆจะช่วยต่อไฟในตัวคุณได้ดีที่เดียว
 
              เห็นอย่างนี้แล้ว เลยไม่แปลกใจว่าทำไม คนระดับรากหญ้า หรือบรรดา"นักสู้ตีนเปล่า”ทั้งหลายจึงมีเรี่ยวแรงต่อสู้นานาอุปสรรคได้อย่างไม่ท้อถอย
 
 
เว็บไซต์ที่มา : http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=4639555642008
แหล่งที่มา    : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ