Website
1166
facebook
twitterx
youtube
Instagram
pantip
TikTok
line
connect








ซื้อลิปสติกให้ปลอดภัย ต้องหมั่นสังเกต

03 ก.ค. 2549

           อย.แนะวิธีการเลือกซื้อ และใช้ลิปสติกให้ปลอดภัย ก่อนซื้อสังเกตฉลากต้องมีข้อความภาษาไทย บอกรายละเอียดต่าง ๆ รวมถึงวันเดือนปีที่ผลิตต้องมี ขาดไม่ได้ ตัวลิปสติกต้องมีผิวเรียบเนียน และไม่ควรซื้อครั้งละมาก ๆ เพราะอาจเสื่อมคุณภาพ รวมทั้งไม่ใช้ลิปสติกร่วมกับคนอื่น เพราะอาจติดเชื้อได้ ควรทำความสะอาดริมฝีปากก่อนทาทุกครั้ง และหากใช้ลิปสติกแล้วมีอาการแพ้ ควรหยุดใช้ทันที
 
           นพ.ศุภชัย คุณารัตนพฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ลิปสติกเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำ อาง ประเภทหนึ่งที่มีการใช้อย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่ผู้ใช้จะใช้ทาริมฝีปากเพื่อช่วยให้ชุ่มชื้น ไม่แห้ง ช่วยปกป้องผิวของริมฝีปากจากสิ่งกระทบภายนอก ช่วยแต่งเติมรูปปากให้สวยงามขึ้น แต่งสีให้เด่นสะดุดตา แลดูงดงาม ดึงดูดความสนใจจากผู้พบเห็น เป็นต้น แต่เนื่องจากลิปติกเป็นเครื่องสำอางที่มักจะมีการกลืนกินเข้าไปในร่างกายได้ ดังนั้น จึงต้องเลือกซื้อ และใช้ลิปสติกด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะถ้าลิปสติกที่เลือกซื้อและใช้ไม่ได้มาตรฐานก็จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยส่วนประกอบต่าง ๆ ของลิปสติก จะมีสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวริมฝีปาก และช่วยให้ลิปสติกนั้นคงรูปอยู่ได้ สีที่ใช้ต้องเป็นสีที่กระทรวงสาธารณสุขอนุญาตให้ใช้ในลิปสติก ส่วนประกอบเสริม จะมีสารที่ทำให้คุณภาพของผลิตภัณฑ์ดีขึ้น หรือมีความคงตัวดีขึ้น เช่น น้ำหอม สารแต่งกลิ่นแต่งรส วัตถุที่ใช้กันเสีย และสารป้องกันแสงแดด เป็นต้น
 
           นพ.ศุภชัย กล่าวต่อว่า อันตรายจากการใช้ลิปสติกมีหลายประการ เช่น อันตรายที่เกิดจากสารที่เป็นส่วนผสม โดยจากการติดตามตรวจสอบ และเฝ้าระวังลิปสติกในท้องตลาดของ อย. ยังคงพบการใช้สีที่ห้ามใช้ลิปสติกที่ไม่มีฉลากภาษาไทย อันตรายที่เกิดจากคุณภาพผลิตภัณฑ์ คือ ลิปสติกเสื่อมคุณภาพ เนื่องจากลิปสติกมีส่วนประกอบด้วยสารกลุ่มขี้ผึ้ง และไขมัน จึงอาจเกิดมีกลิ่นหืนได้เมื่อเก็บไว้ระยะหนึ่ง และลิปสติกที่ไม่มีฉลากเป็นภาษาไทย ไม่แจ้งที่ตั้งของผู้ผลิต หรือผู้นำเข้า เมื่อซื้อมาใช้แล้วมีปัญหาเกิดขึ้นทำให้ไม่สามารถหาผู้รับผิดชอบได้ หรือไม่ทราบว่า ลิปสติกนั้นผลิตเมื่อใด เก่าเกินไปหรือเปล่า ทำให้น่าสงสัยว่าอาจไม่ปลอดภัยต่อผู้ใช้ได้ และอันตรายจากการแพ้ ระคายเคือง หรือมีเม็ดผื่นแดง เมื่อใช้ลิปสติกจะทำให้ริมฝีปากมีสีดำเป็นขุย แห้ง คัน บวมแดง เป็นตุ่มพุพอง อักเสบได้ 
 
           เลขาธิการ อย. กล่าวแนะนำว่าสำหรับการป้องกัน หรือข้อระมัดระวังในการเลือกและใช้ลิปสติก คือ ให้สังเกตฉลากต้องมีข้อความภาษาไทย บอกรายละเอียดชื่อเครื่องสำอาง ประเภท หรือชนิด เช่น ลิปมัน ลิปกรอส ส่วนประกอบ ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต และผู้นำเข้า วิธีใช้ ปริมาณสุทธิ และที่ขาดไม่ได้ คือ วันเดือนปีที่ผลิต ลิปสติกที่อ้างสรรพคุณป้องกันแสงแดด ต้องบอกส่วนประกอบของสารควบคุม ครั้งที่ผลิต และต้องแสดงคำเตือนด้วย สังเกตจากภายนอกลิปสติกต้องมีผิวเรียบเนียน ไม่เยิ้ม กลิ่นไม่เหม็นหืน และไม่ควรซื้อแต่ละครั้งในจำนวนมาก เพราะถ้าเก็บไว้นาน ๆ อาจเก่า หรือเสื่อมคุณภาพ นอกจากนี้ ไม่ควรใช้ลิปสติกร่วมกับผู้อื่น เพราะอาจเกิดการติดเชื้อกันได้ ก่อนทาลิปสติกทุกครั้งควรทำความสะอาดริมฝีปากก่อน หากใช้พู่กัน ควรทำสะอาดพู่กันหลังใช้ทุกครั้ง หากพบสีของลิปสติกเปลี่ยนจากเดิม ไม่ควรใช้ต่อ เนื่องจากอาจเสื่อมคุณภาพ ถ้าใช้ลิปสติกแล้วมีอาการแพ้ ควรหยุดใช้ หากหยุดใช้แล้วอาการยังไม่ดีก็ควรรีบพบแพทย์
 
 
เว็บไซต์ที่มา  : http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=4762644783853
แหล่งที่มา     : เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ