Website
1166
facebook
twitterx
youtube
Instagram
pantip
TikTok
line
connect








การจัดการกรณีโครงการภูพระนางกระบี่รีสอร์ทแอนด์สปา

11 เม.ย. 2557


วันที่ 9 เมษายน 2557 ดร.บัณฑิต ตั้งประเสริฐ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วย นางสาวทรงศิริ จุมพล
ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านโฆษณา นายฐิตินันท์ สิงหา ผู้อำนวยการส่วนคดี สำนักกฎหมายและคดี และคณะทำงาน
ประชุมหารือร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) กรณี ภูพระนางกระบี่
รีสอร์ทแอนด์สปา หลอกลวงผู้บริโภค

และในวันเดียวกัน ทีมเจ้าหน้าที่ สคบ. อีกคณะลงพื้นที่เข้าร่วมประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายกฤช รังสิเสนา ณ อยุธยา เป็นประธานการประชุม ผู้เข้าร่วมประชุมจากหลายหน่วยงาน ได้แก่ ผกก.สถานีตำรวจเมืองกระบี่ ตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ผู้อำนวยการสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ ประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่ สมาคมโรงแรม สมาคมธุรกิจนำเที่ยวจังหวัดกระบี่ และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สรุปผลได้ดังนี้ 

1. ตำรวจท้องที่จะส่งมอบรายชื่อที่อยู่ผู้เสียหายทั้งหมดที่มาแจ้งความไว้ให้ สคบ. (ประมาณ 270 คน) เพื่อให้ สคบ.ประสาน
ผู้เสียหายไปเขียนคำร้องเพิ่มเติมในการดำเนินคดีทางแพ่ง เนื่องจากผู้ร้องกลุ่มนี้เดินทางกลับกรุงเทพฯ ไปแล้ว
2. ตำรวจท้องที่ได้ประสานส่งข้อมูลให้ บก.ปคบ. ดำเนินคดีอาญาแล้ว
3. สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว กรณีเดินทางถึงกระบี่แล้วไม่มีที่พัก ติดต่อข้อมูลที่โทรศัพท์หมายเลข 094 1821 0601 ได้ทุกวัน
4. จะมีการวางแบบฟอร์มคำร้องของ สคบ. ที่ศาลากลางจังหวัดกระบี่ สถานีตำรวจจังหวัดกระบี่ ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและสมาคมโรงแรม โดยสำนักงานจังหวัดจะรวบรวมคำร้องทยอยส่งให้ สคบ.เป็นระยะ
5. ขณะนี้มียอดผู้เสียหายที่แจ้งข้อมูลไว้ที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ 1,028 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ได้แจ้งความไว้ที่ตำรวจท้องที่ 270 ราย ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ประมาณ 200 ราย ส่วนที่เหลือยังไม่ได้แจ้งความหรือร้องทุกข์ที่ใดคาดว่าเพราะไม่รู้ว่าจะต้องติดต่อหน่วยงานใด
6. สคบ. ได้เข้าสังเกตการณ์สถานที่ภูพระนางกระบี่รีสอร์ทแอนด์สปา พบว่า มีการนำป้ายรีสอร์ทลง และนำผ้ามาล้อมไว้โดยรอบ ติดประกาศว่า "ปิดปรับปรุง”

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบความมีอยู่จริงของบริษัทนำเที่ยว ได้ที่ Call Center กรมการท่องเที่ยว
หมายเลข 0 2401 1111 ตลอด 24 ชั่วโมง
 ..........................................................................................

( กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ )