Website
1166
facebook
twitterx
youtube
Instagram
pantip
TikTok
line
connect








สคบ. ขยายผลตรวจจับบุหรี่ไฟฟ้า ส่งพัสดุผ่านขนส่งแห่งหนึ่งมาจากภาคใต้ มูลค่ากว่า 2.6 ล้านบาท

22 เม.ย. 2567


         สืบเนื่องจากการที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด) พร้อมด้วยนายวราวุธ ยันต์เจริญ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำพนักงานเจ้าหน้าที่ สคบ. ลงพื้นที่ ตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ากว่าหมื่นชิ้น จากร้านที่ลักลอบขายใกล้มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิตและมหาวิทยาลัยรามคำแหง จำนวน ๕ ร้าน เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๖๗ ที่ผ่านมา และกำชับ ให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ขยายผลไปหาตัวผู้ลักลอบส่งบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาขายในพื้นที่ดังกล่าว สคบ. จึงได้ดำเนินการสืบสวนขยาบผลจนทราบว่าบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าวมีการขนส่งมาจากภาคใต้ โดยใช้บริการของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด

ในวันอาทิตย์ที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๗ เวลา ๐๗.๓๐ น. นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์  เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ สคบ. นำโดย พันตำรวจเอก ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขาธิการฯ นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญาและพนักงานเจ้าหน้าที่ รวมจำนวน ๔ คน เข้าตรวจสอบการขนส่งพัสดุต้องสงสัย ณ ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ที่ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ พบมีพัสดุต้องสงสัยจำนวน ๑๖ ลัง ซึ่งฝากส่งมาจากศูนย์ไปรษณีย์ไทยหาดใหญ่ อยู่ระหว่างรอนำจ่ายไปยังที่ทำการไปรษณีย์ไทยสาขาคลองจั่น โดยแต่ละลังมีน้ำหนัก ๒๐ กิโลกรัม มีลักษณะใกล้เคียงกับข้อมูลที่สืบทราบมาจึงได้ติดตามการนำจ่ายพัสดุดังกล่าว

เมื่อเวลา ๑๐.๐๐ น. พัสดุจำนวน ๑๖ ลังดังกล่าวได้ไปถึงที่ทำการไปรษณีย์สาขาคลองจั่น พนักงานเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจสอบสิ่งของในกล่องพัสดุ ปรากฏว่าเป็นบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเปลี่ยนหัวสูบแล้วทิ้ง และเฝ้าสังเกตการณ์การเข้ารับพัสดุดังกล่าวจนถึงเวลา ๑๔.๓๐ น. ปรากฏว่าไม่มีบุคคลใดมาแสดงตัวเพื่อรับพัสดุดังกล่าว พนักงานเจ้าหน้าที่ สคบ. จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลลาดพร้าว ร่วมตรวจสอบสิ่งของในกล่องพัสดุจำนวน ๑๖ ลัง พบว่าเป็นบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน ๖ ลัง และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเปลี่ยนหัวสูบแล้วทิ้ง จำนวน ๑๐ ลัง โดยแต่ละลังถูกส่งมาจากศูนย์ไปรษณีย์หาดใหญ่ ระบุชื่อผู้ส่งคุณบุษรา พรศรี เบอร์โทร ๐๘ ๙๙๕๘ ๓๙๒๑ ส่งถึงผู้รับน.ส.ปูรณ์ภัสสร (ปูเป้) เบอร์โทร ๐๖ ๓๗๑๙ ๕๐๕๖

ในการนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่ สคบ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลลาดพร้าว ได้ร่วมกันตรวจยึดสิ่งของดังกล่าวไว้เป็นของกลาง และได้นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลลาดพร้าว เพื่อขยายผลหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยมีรายการของกลางที่ตรวจยึด ดังนี้

๑. บุหรี่ไฟฟ้าชนิดสูบแล้วทิ้ง ยี่ห้อ Mabro จำนวน ๑,๔๔๐ ชิ้น

๒. น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเปลี่ยนหัวสูบแล้วทิ้ง ยี่ห้อ Mabro จำนวน ๑๐,๕๐๐ ชิ้น

๓. น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเปลี่ยนหัวสูบแล้วทิ้ง ยี่ห้อ INFY จำนวน ๓,๑๐๐ ชิ้น

รวมของกลางทั้งหมด จำนวน ๑๕,๐๔๐ ชิ้น มูลค่ากว่า ๒.๖ ล้านบาท

จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ สคบ. พบว่า จะมีการว่าจ้างให้บริษัทขนส่งเอกชนเข้ามารับพัสดุที่ศูนย์นำจ่ายของที่ทำการไปรษณีย์คลองจั่นทุกครั้ง โดยจะมีการจัดส่ง ๒ ครั้ง/สัปดาห์ คิดเป็นมูลค่าบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ากว่า ๒๐ ล้านบาท/เดือน และจะใช้วิธีการระบุเบอร์โทรศัพท์และชื่อบุคคลบนกล่องพัสดุที่ไม่สามารถติดต่อได้

ทั้งนี้ การลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ ๙/๒๕๕๘ ลงวันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๘ เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า "บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” อันเป็นความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๓ ปี หรือปรับ ไม่เกิน ๖๐๐,๐๐๐ บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ ผู้ใดพบเห็นการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ หรือแจ้งเบาะแสนำจับผู้ขายต่อ สคบ. ได้ที่สายด่วน ๑๑๖๖ เว็บไซต์ www.ocpb.go.th. (ทุกข้อมูลและเบาะแสที่แจ้งมายัง สคบ. จะถูกปิดเป็นความลับ)


( กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ )