"ดร. พวงเพ็ชร” มอบ "วราวุธ” ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีผู้บริโภคได้รับความ

เสียหายจากการซื้อห้องชุด โครงการ เดอะ มิดด์ คอนโดมิเนียม 1

วันนี้ (17 พ.ย.66) เวลา 09.30 น. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (ดร.พวงเพ็ชร ชุนละเอียด) มอบหมายให้ นายวราวุธ 

ยันต์เจริญ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะ ประกอบด้วย พลเอกอนุชา รักเรือง คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายไพรัชชัยชาญ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ โครงการ เดอะ มิดด์ คอนโดมิเนียม 1 เพื่อตรวจสอบและทำความเข้าใจกับผู้ร้อง โดยนายวราวุธ กล่าวว่า "ได้ลงพื้นที่โครงการดังกล่าว พบสภาพผนังและตัวอาคารห้อง

มีรอยร้าวหลายจุด มีน้ำรั่วซึม นอกจากนี้ พบว่าไม่มีระบบสาธารณูปโภคตามที่ได้โฆษณาไว้ และได้รับทราบ
ความเดือดร้อนและได้เห็นสภาพจริงจากลูกบ้าน ซึ่งทาง สคบ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ปัจจุบันเรื่องที่ร้องเรียนดังกล่าวได้เข้าสู่คณะอนุกรรมการไกล่เกลี่ยเรื่องร้องทุกข์จากผู้บริโภคเรียบร้อยแล้ว พบว่าบริษัทฯ ไม่ให้ความร่วมมือ ทาง สคบ. จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการติดตาม และขอความร่วมมือเทศบาลเมืองบางรักพัฒนา ซึ่งอยู่ในพื้นที่ช่วยเป็นหูเป็นตา ขณะที่ สคบ. เองได้รวบรวมพยานหลักฐาน และจะนำเข้าสู่คณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่ง ดร. พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน หลังจากนั้นจะดำเนินการฟ้องทางอาญาและทางแพ่งได้ ส่วนเรื่องของโครงสร้างอาคารทางเทศบาลเมืองบางรักพัฒนาและทางจังหวัดนนทบุรีได้ให้ความร่วมมือในการดำเนินการตรวจสอบต่อไป”

ด้านนายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครอง

ผู้บริโภค เปิดเผยว่า สคบ. ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและมีการดำเนินการ ดังนี้

 1. สคบ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ร้องว่าได้ทำสัญญาซื้อขายห้องชุดโครงการดังกล่าว ภายหลังเข้าอยู่อาศัยพบความชำรุดบกพร่องภายในห้อง ผนังภายนอกและภายในห้อง ผนังห้องครัว ผนังห้อง

นั่งเล่น ผนังห้องนอน ขอบหน้าต่างและฝ้าเพดานชำรุด

2. สคบ. ได้เชิญบริษัทและผู้ร้องมาเจรจาไกล่เกลี่ย โดยผู้ร้องเป็นคนจัดหาบุคคลภายนอกมาซ่อมแซมและบริษัทตกลงชำระค่าซ่อมแซมห้องชุดให้กับผู้ร้อง ต่อมาเมื่อผู้ร้องได้จัดส่งใบเสนอราคาค่าซ่อมแซมให้กับบริษัทฯ และบริษัทฯ ได้มีการกำหนดวันชำระเงินค่าซ่อมแซมห้องชุดให้กับผู้ร้องทราบ แต่ปรากฏว่าผู้ร้องได้มีหนังสือถึง สคบ. เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2565 แจ้งไม่รับเงื่อนไขของ บริษัท ฯเนื่องจากเห็นว่า ระยะเวลาที่บริษัทฯ กำหนดในการชำระเงินค่าซ่อมแซมห้องชุดใช้เวลานานเกินไป และแจ้ง สคบ. ว่าจะเป็นผู้จัดหาวิศวกรมาประเมินความเสียหายภายในห้องชุด แต่ปรากฏว่าผู้ร้องไม่สามารถจัดหาวิศวกรมาประเมินความเสียหายภายในห้องชุดได้

3. ต่อมา สคบ. ได้รับประเด็นร้องเรียนเพิ่มเติมในโครงการดังกล่าวเกี่ยวกับประเด็นไม่มี Lobby บริเวณโถงต้อนรับ Skywalk เป็นทางเดินเชื่อมระหว่างโครงการอาคารชุดต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้า
สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ถนนทางเข้าโครงการไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ซี่ง สคบ. ได้มีหนังสือขอข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาให้ความช่วยเหลือต่อผู้บริโภค และเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 สคบ. ได้ลงพื้นที่ร่วมกับผู้ร้องเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงประเด็นเกี่ยวกับสาธารณูปโภคเพิ่มเติม

4. ในระหว่างที่ สคบ. ได้ดำเนินการเรื่องดังกล่าว ได้มีผู้ร้องได้ร้องเรียนเพิ่มเติมเข้ามาหลายราย สคบ. จึงได้เชิญผู้ร้องที่ได้ร้องเรียนเพิ่มเติม เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย แต่บริษัทฯ ไม่ได้เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยตามนัด ผู้ร้องมีความประสงค์ขอยกเลิกสัญญาและเงินที่ชำระไปทั้งหมดคืน และจะจัดส่งให้รายละเอียดความเสียหายภายในห้องชุดพร้อมรายละเอียดการประเมินความเสียหายของวิศวกรให้ สคบ. ใช้ประกอบการพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ สคบ. ได้มีการแจ้งผลการดำเนินงานให้ผู้ร้องทราบมาโดยตลอด อีกทั้งประเด็นข้อพิพาทเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างอาคารชุดจึงต้องได้รับความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประกอบการพิจารณาของ สคบ. ด้วย

ทั้งนี้ ตามข้อสั่งการของ ดร. พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้ สคบ. ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดทันทีหลังจากที่ทราบข่าว พร้อมทั้งจะดำเนินการตามกระบวนการทุกขั้นตอนตามลำดับ และไม่ได้นิ่งนอนใจต่อข้อร้องเรียนของผู้บริโภค ซึ่ง สคบ. เอง ได้มีหนังสือเรียกกรรมการบริษัทฯ มาพบเพื่อให้ถ้อยคำเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 แต่บริษัทฯไม่ได้มาตามนัด จึงเป็นการขัดหนังสือเรียก มีความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนคดีแพ่ง สคบ. ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป